สวัสดีครับอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเข้าพรรษากันอีกแล้ว...วันเข้าพรรษาที่ไรทั้งภาครัฐภาคเอกชนก็ออกมารณรงค์ให้คนที่เป็นสิงห์นักดื่มทั้งหลาย ให้งด ละ เลิกดื่มเหล้าตามสโลแกน "เลิกเหล้าเข้าพรรษา" และก็ตามสถิติอีกเหมื่อนกันที่ชี้ว่าบ้านเรายังอยู่อันดับต้นๆของโลกในเรื่องการดื่มน้ำเมา ชนิดเมากันปลิ้นทั่วบ้านทั่วเมือง และเป็นฝ่ายชายครับที่ครองแชมป์นักดื่มไปครอง
(สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.thaihealth.or.th/Multimedia/1862/%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0)
ครับการดื่มเหล้านั้นดีไม่ดีนี้ทุกๆท่านล้วนทราบกันอยู่แล้วนะครับ ถ้าดื่มพอประมาณหรือดื่มเท่าที่จำเป็นคงไม่เป็นไรหรอกครับ แต่เพราะดื่มมากจนขาดสติ เพราะข้อเสียอย่างหนึ่งของเหล้าที่ผมว่ามันสำคัญมากๆคือการขาดสติ การขาดสตินั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาหลายๆอย่างที่ตามมาครับไม่ว่าจะเป็น การทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน อุบัติเหตุ ซึ่งนำความสูญเสียมาสู่ตัวเราเองและคนรอบข้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ เข้าพรรษาปีนี้ผมจึงอยากจะชวนทุกท่านมาเลิกเหล้า หรือจะลองงดดูก่อนก็แล้วแต่สะดวก เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารักและผู้คนรอบข้างจะได้ไม่เดือดร้อน เรารองมาดูวิธี ลด ละ เลิกเหล้ากันครับ

การ
หยุดดื่มสุราโดยทันทีเหมาะสำหรับผู้ดื่มที่ไม่มีอาการถอนพิษสุราในช่วงเช้า
หลังตื่นนอน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก เป็นต้น
และไม่เคยมีอาการถอนพิษสุราที่รุนแรงหลังหยุดดื่มสุราในอดีต เช่น อาการชัก
กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง สมองสับสน หูแว่ว ประสาทหลอน เป็นต้น
เนื่องจากความเสี่ยงต่อการถอนสุรารุนแรงมีไม่มาก
ผู้ดื่มที่หยุดดื่มโดยทันที ควรติดตามอาการของตนเอง โดยเฉพาะในช่วง 3
วันแรก หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก
หงุดหงิดกระสับกระส่ายเพิ่มมากขึ้น
ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยบำบัดในการถอนพิษสุรา
ผู้ที่เลิกดื่มในช่วงเริ่มต้น ควรปฏิบัติตน ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้เพียงพอ
2. จิบน้ำหวานบ่อยๆ เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
3. หลีกเลี่ยงอาหารมัน เนื่องจากตับอาจจะยังทำงานได้ไม่ดี
4. รับประทานวิตามิน B1-6-12 ชดเชยครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
6. พยายามกระทำกิจกรรมที่ให้ความสุขใจ ไม่ปล่อยให้ตนเองว่าง ผ่อนคลายความเครียดด้วยดนตรี เล่นกีฬาเบาๆ ทำงานศิลปะ เป็นต้น
7. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงหรือตัวกระตุ้นเร้าให้อยากดื่ม เช่น ร้านขายสุรา เพื่อนที่ดื่ม เป็นต้น
8. บอกกับบุคคลในครอบครัวและคนใกล้ชิดว่าตนเองกำลังเลิกสุรา ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย
9. ปฏิเสธเพื่อนที่มาชวนดื่มว่า ตนเองกำลังมีปัญหาโรคตับ หมอสั่งให้งดการดื่ม
10. หากผู้ดื่มเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ด้วย ควรควบคุมปริมาณบุหรี่ที่สูบไม่ให้เพิ่มมากขึ้น หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นทางออก
- See more at:
http://www.1413.in.th/content-view-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A.htm#sthash.cnOrkaD2.dpuf
10 วิธีเลิกเหล้า
1. ตั้งใจจริง การเลิกเหล้าไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีความตั้งใจความสำเร็จย่อมไม่ไกลเกินเอื้อม
2. ตั้งเป้าว่าจะเลิกเหล้าเพื่อใคร
เพราะเหตุใด เช่น
เพื่อพ่อแม่…เพราะการดื่มเหล้าของเราทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจเพื่อตัวเอง…
จะได้มีสุขภาพดีแถมมีเงินเก็บมากขึ้น เพื่อลูกและครอบครัว…เพราะเหล้า
เข้าปากทีไร เป็นต้องทะเลาะกันทุกที
ถ้าเลิกเหล้าก็คงทะเลาะกันน้อยลงครอบครัวจะได้มีความสุข
มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น…เป็นต้น
3. หยุดทันที!
คนที่มีแนวคิดว่าเพียงแค่ดื่มเพื่อความสนุกสนานหรือต้องการเข้าสังคม
เมื่อตั้งใจที่จะเลิกเหล้า ก็ต้องพยายามหักห้ามใจ และหยุดดื่มทันที
4. ปรับเปลี่ยนนิสัยการดื่ม
สำหรับคนที่เคยดื่มเหล้าเป็นประจำอาจเลิกทันทีได้ยาก
ให้ลองใช้วิธีดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจช่วยให้ดื่มเหล้าน้อยลงได้ เช่น ดื่ม
เหล้าพร้อมกับการรับประทานอาหาร หรือ
หมั่นดื่มน้ำเปล่าควบคู่ไปด้วยระหว่างการดื่มเหล้า เปลี่ยนขนาดของแก้ว
จากแก้วใหญ่เป็นแก้วเล็กดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่าทดแทนไปก่อนใน
ระยะแรก
5. ตั้งเป้าว่าจะลดปริมาณการดื่ม เช่น จากที่เคยดื่มวันละ 8 แก้ว ก็อาจจะลดปริมาณการดื่มลงไปเรื่อยๆ จนเหลือวันละ 1 แก้ว และไม่ดื่มเลยแม้แต่แก้วเดียวในที่สุด
6. หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ความเสี่ยงในที่นี้คือ
สถานการณ์หรือสถานที่ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้เราดื่มเหล้าได้ง่ายขึ้น
ได้แก่ ช่วงเวลาหลังเลิกงาน วันเงินเดือนออก วาระหรือโอกาสพิเศษต่างๆ
การไปเที่ยวผับหรือร้านอาหาร สถานบันเทิง
การชักชวนจากกลุ่มเพื่อนที่ดื่มจัด รวมถึงสาเหตุต่างๆ
ที่นำไปสู่อาการเหน็ดเหนื่อย ทดท้อ เหงา เศร้า เครียด ฯลฯ
7. เมื่อมีเวลาว่าง
ให้ทำกิจกรรมอื่นที่สร้างสรรค์แทนการดื่มสังสรรค์
ทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพหลังเลิกงาน เช่น ออกกำลังกาย –
เล่นกีฬาฉลองวาระพิเศษต่างๆ ด้วยแนวปฏิบัติแบบใหม่ เช่น
ไปทำบุญแทนการดื่มเมื่อรู้สึกเหงา เศร้าหรือเครียด
ให้หากิจกรรมสร้างสรรค์และจรรโลงจิตใจทำทันที อาทิ อ่านหนังสือ ฟังเพลง
ชมภาพยนตร์ ตลอดจน เล่นกีฬา ฯลฯ
8. ฝึกปฏิเสธให้เด็ดขาด เช่น ถ้าเพื่อนคะยั้นคะยอให้ดื่ม ให้บอกเค้าไปว่า ” หมอห้ามดื่ม , ไม่ว่างต้องไปทำธุระ ฯลฯ…”
9. หาที่พึ่งทางใจรวมถึงหากำลังใจจากคนรอบข้าง เช่น
พ่อแม่ คนรัก ลูก หรือเพื่อนสนิท ที่สามารถปรึกษาหารือให้คำแนะนำดีๆ
แก่เราได้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อเราต้องการ
นอกจากนี้การพูดคุยหรืออ่านประสบการณ์ของคนที่เลิกเหล้าสำเร็จ
ก่อนจะพบกับความสวยงามของชีวิตย่อมช่วยสร้างกำลังใจให้กับเราได้มากอย่างที
เดียว
10.ปรึกษาหน่วยงานช่วยเหลือ หากไม่สามารถเลิกเหล้าด้วยตัวเองควรปรึกษาหน่วยงานช่วยเหลือดังต่อไปนี้
สายด่วนยาเสพติด สถานธัญรักษ์ กรมการแพทย์ โทร:
1165
สายด่วนเลิกเหล้า ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร:
1413
โรงพยาบาลและสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
วิธีช่วยสามีหรือภรรยาให้เลิกเหล้า
การชักจูงให้สามีหรือภรรยาเลิกสุรานั้น การใช้วิธีการขู่ ดุด่า ขอร้อง
หรือกระทั่งยื่นคำขาดเอาความสัมพันธ์มาเป็นเดิมพัน
ผลที่ได้อาจไม่คุ้มกับที่เราต้องแลกมา เพราะอาจทำให้คุณเสียใจ เสียแรง
และเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เทคนิควิธีการที่เหมาะสม
และให้ผลดีในการพูดคุยกับสามีหรือภรรยาที่ดื่มสุรา มีดังนี้
1. ควรพูดในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ช่วงที่เขาไม่เมา
เพราะตอนนั้นเขามีสติสัมปชัญญะที่จะสามารถรับฟังเหตุผลของคุณได้มากที่สุด
ไม่ควรพูดในช่วงที่เขาเมาอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ด่าว่า
ไม่ยืนเหนือกว่าเขา หรือมองด้วยแววตาที่ดุดัน เพราะจะยิ่งทำให้เขาก้าวร้าว
และอาจจะทำร้ายคุณได้
2. ไม่เซ้าซี้ให้ผู้ดื่มเลิกสุราอยู่ตลอดเวลา
แต่เปลี่ยนเป็นการแสดงความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพด้วยความจริงใจ
และชวนไปตรวจสุขภาพแทน หากไม่ได้ผล
ควรทิ้งระยะเวลาช่วงหนึ่งแล้วค่อยแสดงความเป็นห่วงสุขภาพอีก
3. หากผู้ดื่มเต็มใจอยากเลิกสุรา หรือบ่นว่าอยากเลิก คุณไม่ควรละเลยโอกาสนี้ โดยสิ่งแรกที่คุณควรทำคือการ
ชื่นชมในความคิดส่วนนี้ของเขา ให้กำลังใจ ให้ความเชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้
และคุณจะอยู่เคียงข้างเขา จากนั้นแนะนำวิธีการช่วยเหลือแก่เขา
โดยให้ความเชื่อมั่นว่าแพทย์จะสามารถช่วยเหลือเขาให้เลิกสุราได้สำเร็จและ
ไม่ต้องทรมาน จากนั้นจึงพาผู้ดื่มไปยังสถานพยาบาลที่ให้การช่วยเหลือ
ในกรณีที่ให้ข้อมูลวิธีการช่วยเหลือจากแพทย์แล้ว
ผู้ดื่มยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ไป แต่จะขอหยุดดื่มด้วยตนเอง
คุณอาจสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่ไปพบแพทย์ และอาจให้ความมั่นใจอีกครั้งว่า
การพบแพทย์เป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่ทรมาน และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
โดยแพทย์จะมีตัวยาช่วยเหลือ
แต่หากสามีหรือภรรยาของคุณยังยืนยันที่จะหยุดดื่มด้วยตนเองอยู่
คุณก็ไม่ควรไปเซ้าซี้ต่อ แต่ก็ให้เขาลองหยุดดื่มด้วยตนเองก่อน
โดยคุณควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการหยุดดื่มด้วยตนเองเพื่อนำไปช่วยเหลือเขาต่อ
ไป
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413 ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์
วิธีหักดิบ
การหยุดดื่มสุราโดยทันทีเหมาะสำหรับผู้ดื่มที่ไม่มีอาการถอนพิษ
สุราในช่วงเช้าหลังตื่นนอน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก
เป็นต้น และไม่เคยมีอาการถอนพิษสุราที่รุนแรงหลังหยุดดื่มสุราในอดีต เช่น
อาการชัก กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง สมองสับสน หูแว่ว ประสาทหลอน เป็นต้น
เนื่องจากความเสี่ยงต่อการถอนสุรารุนแรงมีไม่มาก
ผู้ดื่มที่หยุดดื่มโดยทันที ควรติดตามอาการของตนเอง โดยเฉพาะในช่วง 3
วันแรก หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก
หงุดหงิดกระสับกระส่ายเพิ่มมากขึ้น
ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยบำบัดในการถอนพิษสุรา
ผู้ที่เลิกดื่มในช่วงเริ่มต้น ควรปฏิบัติตน ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้เพียงพอ
2. จิบน้ำหวานบ่อยๆ เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
3. หลีกเลี่ยงอาหารมัน เนื่องจากตับอาจจะยังทำงานได้ไม่ดี
4. รับประทานวิตามิน B1-6-12 ชดเชยครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
6. พยายามกระทำกิจกรรมที่ให้ความสุขใจ ไม่ปล่อยให้ตนเองว่าง ผ่อนคลายความเครียดด้วยดนตรี เล่นกีฬาเบาๆ ทำงานศิลปะ เป็นต้น
7. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงหรือตัวกระตุ้นเร้าให้อยากดื่ม เช่น ร้านขายสุรา เพื่อนที่ดื่ม เป็นต้น
8. บอกกับบุคคลในครอบครัวและคนใกล้ชิดว่าตนเองกำลังเลิกสุรา ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย
9. ปฏิเสธเพื่อนที่มาชวนดื่มว่า ตนเองกำลังมีปัญหาโรคตับ หมอสั่งให้งดการดื่ม
10. หากผู้ดื่มเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ด้วย ควรควบคุมปริมาณบุหรี่ที่สูบไม่ให้เพิ่มมากขึ้น หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นทางออก
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยได้ที่ สายด่วน 1413 ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์
ขอให้ทุกคนที่จะหรือมีความตั้งใจที่จะเลิกดื่มเหล้าจงประสบความสำเร็จทุกท่านครับ ขอให้มีสุขภาพ ร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้ตลอดไปครับ
(อ้างอิงข้อมูลจาก
http://club.sanook.com/11413/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%8A/)
http://www.thaihealth.or.th สสส. สายด่วน1413)
การ
หยุดดื่มสุราโดยทันทีเหมาะสำหรับผู้ดื่มที่ไม่มีอาการถอนพิษสุราในช่วงเช้า
หลังตื่นนอน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก เป็นต้น
และไม่เคยมีอาการถอนพิษสุราที่รุนแรงหลังหยุดดื่มสุราในอดีต เช่น อาการชัก
กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง สมองสับสน หูแว่ว ประสาทหลอน เป็นต้น
เนื่องจากความเสี่ยงต่อการถอนสุรารุนแรงมีไม่มาก
ผู้ดื่มที่หยุดดื่มโดยทันที ควรติดตามอาการของตนเอง โดยเฉพาะในช่วง 3
วันแรก หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก
หงุดหงิดกระสับกระส่ายเพิ่มมากขึ้น
ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยบำบัดในการถอนพิษสุรา
ผู้ที่เลิกดื่มในช่วงเริ่มต้น ควรปฏิบัติตน ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้เพียงพอ
2. จิบน้ำหวานบ่อยๆ เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
3. หลีกเลี่ยงอาหารมัน เนื่องจากตับอาจจะยังทำงานได้ไม่ดี
4. รับประทานวิตามิน B1-6-12 ชดเชยครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
6. พยายามกระทำกิจกรรมที่ให้ความสุขใจ ไม่ปล่อยให้ตนเองว่าง ผ่อนคลายความเครียดด้วยดนตรี เล่นกีฬาเบาๆ ทำงานศิลปะ เป็นต้น
7. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงหรือตัวกระตุ้นเร้าให้อยากดื่ม เช่น ร้านขายสุรา เพื่อนที่ดื่ม เป็นต้น
8. บอกกับบุคคลในครอบครัวและคนใกล้ชิดว่าตนเองกำลังเลิกสุรา ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย
9. ปฏิเสธเพื่อนที่มาชวนดื่มว่า ตนเองกำลังมีปัญหาโรคตับ หมอสั่งให้งดการดื่ม
10. หากผู้ดื่มเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ด้วย ควรควบคุมปริมาณบุหรี่ที่สูบไม่ให้เพิ่มมากขึ้น หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นทางออก
- See more at:
http://www.1413.in.th/content-view-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A.htm#sthash.cnOrkaD2.dpuf