ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โลกร้อน อีกก้าวของสหรัฐและจีน

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ต้องถือเป็นข่าวดีของประชาคมโลก เมื่อยักษ์ใหญ่ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด คือจีนและสหรัฐ บรรลุข้อตกลงครั้ง "ประวัติศาสตร์" ที่กรุุงปักกิ่ง  นี่นับเป็นครั้งแรกของประเทศจีนที่ยอมประกาศ"กำหนดวัน" ในการยุติการปล่อยก๊าซเรือนสู่ชั้นบรรยากาศ เพราะจีนเป็นประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดนั้นเอง ภายใต้ข้อตกลงนี้ทางสหรัฐจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 26-28% ภายในปี พ.ศ.2568 เมื่อเทียบกับปี 2548 ซึ่งสหรัฐก็พยายามดำเนินการเป้าหมายคือลดการปล่อยก๊าซลง 17 % ในปี 2563 ซึ่งเป้าหมายใหม่จะทำให้สหรัฐลดการปล่อยก๊าซได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่า ส่วนจีนที่ปล่อยก๊าซเพิ่มขึ้นทุกปี จากการสร้างโรงงานถ่านหินก็ตั้งเป้าจะลดการปล่อยก๊าซในระดับสูงสุดไม่เกินปี 2573 หรือเร็วกว่านั้นถ้าทำได้ โดยจีนจะลดารใช้เชื้อเพลิง ฟอสซิลลง 20% ในปี2573 
         จากผลการสำรวจและการทำวิจัยพบว่าถ้าประชาคมโลกไม่สามารถจำกัดอุณหภูมิตามเป้าหมายของสหประชาชาติ คือ  2 เปอร์เซ็น เหนือระดับยุคก่อนอุตสาหกรรม หากประชาคมโลกไม่สามารถทำได้ตามนี้ เราๆท่าน คงได้เฆ้นหายนะครั้งใหญ่แน่ๆ 
          จีนและสหรัฐปล่อยก๊าซเรือนกระจกร่วมกันประมาณ 45% ของก๊าซที่ปล่อยทั้งโลก(จีน 29% ,สหรัฐ16%, สหภาพยุโรป 11 %) ทั้ง 2ชาติจึงเป็นหลักประกันในการรับประกันความร่วมมือในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะประชุมใหญ่ ในปีหน้า ที่ กรุงปารีส ฝรั่งเศส ทั้งสองประเทศตั้งท่าแบบไม่ยอมกันมานานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องท้าทายของทั้งสองประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐหรือจีน ว่าจะทำได้หรือไม่ สหรัฐผู้เคยให้สัตยาบันพีธีการเกียวโตว่าด้วยโลกร้อน ว่าจะลดแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนหลายหน ส่วนจีนซึ่งแต่ก่อน มักบอกว่าจะ ทำโดยเร็ว ที่มาครั้งนี้มีการกำหนดวันและปล่อยก๊าซในระดับสูงสุด
แต่ทั้งสองประเทศนั้นจะทำได้มากน้อยแค่ใหนเราต้องคอยดูกันเพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น