ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อัลเดนาฟิล ยาตัวใหม่คล้ายไวอาก้า

สวัสดีครับวันนี้เราจะมาเล่ากันถึงเรื่องยา ที่ทางสำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพิ่งตรวจพบกันครับ ยาตัวตัวนี่ชื่อ" อัลเดนาฟิล ซึ่งได้ตรวจพบกับยาแผนโบราณที่จำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งสารตัวนี้มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับยา ซิลเดนาฟิลหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ไวอากร้า ที่เป็นยาแผนปัจจุบันที่เป็นกลุ่มออกฤทธิ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ โดยสารในกลุ่มนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันในบ้านเรานั้นมี 3 ชนิดคือ ซิลเดนาฟิล ทาดาลาฟิลและวาร์เดนาฟิล ซึ่งยาทั้งหมดเป็นบาควบคุมพิเศษ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
    นายแพทย์ อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว่าที่ผ่านมา ตรวจพบการใช้ไวอากร้า ปลอมปนในยาแผนโบราณเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังพบการใช้ยาทาดาลาฟิล วาเดนาฟิล หรือทั้งสองตัวผสมกันบ้าง ซึ่งแนวโน้มในการใช้สารในการปลอมปนนี้มีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด เพื่อให้ยากในการตรวจพบ โดยเปลี่ยนไปใช้สารที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกัน คล้ายกับสารที่ออกฤทธิ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งสารดังกล่าวนี้ไม่มีข้อมูลความปลอดภัย จึงไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยา "มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากหากบริโภคยาแผนโบราณที่ปลอมปนด้วยสารเหล่านี้ เนื่องจากสารในกลุ่มนี้ไม่เพียงออกฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดแดงที่อวัยวะเพศชายเท่านั้นแต่ยังไปขยายหลอดเลือดในบริเวณอื่นๆด้วย ส่งผลให้เกิด อาการ หน้าแดง ปวดศีรษะ ตาลาย อาหารไม่ย่อย หายใจลำบาก อาจสูญเสียการได้ยินได้ หรือ เกิดความผิดปรกติกับประสาทตา หรืออาจทำให้ผู้บริโภคยามีความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ประชาชนไม่ควรซื้อยาแผนโบราณที่อวดอ้างสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศมารับประทานเพราะอาจมีการปลอมปนสารดังกล่าว" นายแพทย์ อภิชันกล่าว
      ทางด้าน อย.(คณะกรรมการอาหารและยา)กล่าวว่า ตัวยาอัลเดลาฟิลนี้คาดว่าน่าจะเป็นตัวนาสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ จัดอยู่ในกลุ่มเดี่ยวกับซิลเดลาฟิล อาจออกฤทธิ์แคกต่างกันบ้าง แต่โดยหลักๆ แล้วจะออกฤทธิ์คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนว่ามีการผลิตหรือนำเข้ามาในประเทศ ดังนั้น ผู้ผลิตยาแผนโบราณตัวนี้จะถือเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ มีการผลิตและขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโท
ษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
     เมื่อทราบอย่างนี้แล้วการที่เราจะใช้ยาใดๆที่มีความเสี่ยงควรจะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่านะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น