ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ที่เจริญไปมากนั้น ได้ส่งผลให้ผู้ป่วยเอชไอวีหรือโรคเอดส์นั้นมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น อายุทั่ยื่นยาว สุขภาพแข็งแรงไม่ต่างจากคนปกติโดยทั่วไป ในอดีตผู้ป่วย จะหน้าตาทรุดโทรม ผอมแห้ง และเสียชีวิตเร็วนั้นดู เหมือนจะเป็นภาพในอดีตไปแล้ว เพราะทุกวันนี้สามารถผลิตยาต้านไวรัสให้ผู้ติดเชื้อมีประสิทธิภาพดีขึ้นรวมถึงการเข้าถึงยาต้านไวรัสด้วย ทำให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถมีชีวิตที่อบอุ่น สามารถมีลลูกหลานที่ไม่ติดเชื้อคอยดูแลยามแก่เฒ่าได้ ครับใครๆก็อยากมีชีวิตคู่และมีลูกเพื่อให้ครอบครัวสมบรูณ์ ผู้ป่วยส่วนมากมีความคิดว่า ไม่กล้าที่จะมีคู่หรือไม่กล้าบอกรวมไปถึงการมีบุตร ซึ่งความคิดนี้"เป็นความคิดที่ผิดในสมัยนี้"ผู้ติดเชื้อสามารถมีคู่ได้ไม่ว่าคู่จะติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม และสามารถมีลูกได้โดยที่เด็กเกิดมาจะแข็งแรงไม่ติดเชื้อถ้าคุณแม่ได้รับการรักษา ได้ยาต้านไวรัสที่เหมาะสม เพราะยาต้านไวรัสมีการพัฒนามาโดยตลอด ให้ผู้ติดเชื้อต้องทานยาอย่างมีวินัย สามารถคุมเชื้อไวรัสในกระแสเลือดได้ และจะได้ไม่ส่งผ่านต่อคู่รักหรือต่อเด็ก แม่ที่ติดเชื้อสามารถตั้งครรภ์โดยที่ร่างกายอ่อนแอลง มีการศึกษาพบว่าการตั้งครรภ์ไม่มีผลเสียต่อร่างกายของแม่เด็ก เพราะฉะนั้นสามีภรรยาที่ติดเชื้อสามารถมีบุตรได้อย่างปลอดภัย ที่สำคัญคือการฝากท้องและรับยาต้านไวรัสเอชไอวีโดยเร็ว
อย่างไรก็ดีหากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งสมัยก่อนเด็กอาจจะเสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย แต่เดียวนี้เด็กสามารถใช้ชีวิตปรกติ ขอแค่มาตรวจกับหมอเป็นประจำ สม่ำเสมอและกินยาอย่างเคร่งครัด บางคนใช้ชีวิตจนเติบใหญ่มีครอบครัวที่สมบรูณ์ เพราะฉะนั้นโรคเอดส์จึ่งเป็นโรคที่น่ากลัวเหมื่อนแต่ก่อนและไม่ติดกันง่ายๆ ผู้คนทั่วไปจึงต้องเปลี่ยนความคิดต่อผู้ป่วยเหล่านี้ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างปรกติในสังคมอย่างมีความสุขครับ
อย่างไรก็ดีหากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งสมัยก่อนเด็กอาจจะเสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย แต่เดียวนี้เด็กสามารถใช้ชีวิตปรกติ ขอแค่มาตรวจกับหมอเป็นประจำ สม่ำเสมอและกินยาอย่างเคร่งครัด บางคนใช้ชีวิตจนเติบใหญ่มีครอบครัวที่สมบรูณ์ เพราะฉะนั้นโรคเอดส์จึ่งเป็นโรคที่น่ากลัวเหมื่อนแต่ก่อนและไม่ติดกันง่ายๆ ผู้คนทั่วไปจึงต้องเปลี่ยนความคิดต่อผู้ป่วยเหล่านี้ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างปรกติในสังคมอย่างมีความสุขครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น