ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ว่าด้วยเรื่อง "ความไร้สัญชาติ(Statelessness)"

เมื่อต้นเดื่อนที่ผ่านมา สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ  (UNSCR) ได้เริ่มรณรงค์โครงการ กำจัดภาวะคนไร้รัฐ หรือ คนไร้สัญชาติ (Statelessness) ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 10ล้านคน ให้หมดไปภายใน 10 ปีข้างหน้า เป้าหมายก็เพื่อไม่ให้ผู้คนเหล่านี้ มีชีวิตอยู่ โดยไม่มีหลักฐานเอกสารระบุตัวตนถูกต้องตามกฎหมายตลอดทั้งชีวิต โดยปีนี้ครบรอบ 60 ปี อนุสัญญาสหประชาติ ค.ศ. 1954 ว่าด้วยเรื่องคนไร้รัฐ ซึ่งข้อตกลงนี้รวมถึง อนุสัญญาว่าด้วยการลดความไร้สัญชาติ ค.ศ.1961 ถือเป็นกฎหมายพื้นฐานเพื่อยุติ ความไร้รัฐของเพื่อนมนุษย์
             จากข้อมูลของ UNSCR ถึงวันที่ 4พ.ย. ที่ผ่านมา มี 83 ประเทศทั่วโลกที่เป็นภาคีให้สัตยาบันอนุสัญญายูเอ็นว่าด้วยตนไร้รัฐ ค.ศ.1954 และ 61 ประเทศ เป็นภาคีของฉบับ ปี ค.ศ.1961 กลุ่มคนไร้รัฐนั้นไม่ได้รับการยอมรับในประเทศที่ตนอยู่อาศัย ไม่มีใบเกิดหรืสูติบัตรในการระบุตัวตน เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่นใด กรณีมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากเด็กที่แม่ตั้งครรภ์และคลอดในค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ จากการสู้รบในซีเรีย แล้วหนี้มาหลบในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉลี่ยทุกๆ 10 นาทีจะมีเด็กที่เกิดเป็นเด็กไร้รัฐ เมื่อไม่มีสัญชาติเด็กๆเหล่านี้ก็จะถูกปฎิเสธสิทธิในการเข้าถึงบริการต่างๆของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การรักษาพยาบาลหรือการมีงานทำ นอกจากนี้ยังมีอีก 27 ประเทศที่ผู้หญิงที่มีบุตรไม่สามารถส่งสิทธิในการถือสัญชาติไปยังบุตรได้เหมื่อนผู้ชาย พวกเขาเหล่านี้อยู่อย่างสิ้นหวัง และได้รับการดูถูกจากคนในประเทศเหล่านั้น
            โดย 5 จุดที่เป็นปัญหาใหญ่ได้แก่
1.เมียนมาร์ ซึ่งเหล่าโรฮิงญากว่า 1.3 ล้านคน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของประเทศ ไม่มีสถานะทางกฎหมาย
2.สาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสัญชาติ ชาวเฮติทุกคนที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศ
3.ไอวอรีโคสต์ มีผู้อพยพประมาณ 700,000คนที่ทางการไม่ยอมรับเป็นพลเมืองของประเทศ
4.กลุ่มคนที่พูดภาษารัสเซียจำนวนมาก ไม่ได้รับการยอมรับจากการเป็นพลเรือนลัตเวีย
5.ประเทศไทย ที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ500,00คนที่ไม่มีสัญชาติ แต่ยูเอ็นเอชซีอาร์ไม่ได้บอกว่าพวกเขานั้นเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ
         ด้วยความพยายามที่ผ่านมาทำให้สามารถ ทำให้อดีตคนไร้รัฐกลายเป็นคนมีสัญชาติประมาณ 4 ล้านคน รวมถึงเผ่าเร่ร่อน"โรมา"ที่อาศัยอยู่ทั่วยุโรปทั่งหมด ในตอนนี้ทางยูเอ็นเอชซีอาร์มุ่งไปที่ชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์ และต้องใช้เวลาซักระยะและหวังว่าจะได้ผลออกมาเป็นที่พอใจ
           จนถึงขณะนี้มีเพียง 27 ประเทศรวมลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศ แม้อาจดูน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนสมาชิกทั้งหมด 193 ประเทศและ 2 รัฐสังเกตการณ์ แต่ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น